สมุนไพรที่มีโภชนาการสูง,พืชสมุนไพรไทย ,สมุนไพร,คุณค่าทางจากธรรมชาติ
การได้รับอาหารที่เพียงพอและถูกสัดส่วนเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับมนุษย์เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ประชาชนที่กินดีย่อมมีภาวะโภชนาการที่สมบูรณ์ เข้าใจในเรื่องโภชนาการสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน แล้วจะเป็นกำลังสำคัญในการแก้และลดปัญหาทุพโภชนาการ

โภชนาการของสมุนไพร

  • การได้รับอาหารที่เพียงพอและถูกสัดส่วนเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับมนุษย์เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ประชาชนที่กินดีย่อมมีภาวะโภชนาการที่สมบูรณ์ เข้าใจในเรื่องโภชนาการสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ถั่วเขียวต้มน้ำตาล หรือนำมาทำอาหารเช่นเนื้อสัตว์เทียมพวกโปรตีนเกษตร ถั่วเขียวให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันต่ำ มีแร่ธาตุ และวิตามินหลากหลายชนิด เช่น วิตามินเค, วิตามินซี, วิตามินเอ, วิตามินบีรวม  โฟเลต และ เหล็ก ในถั่วเขียวยังมีใยอาหารสูงซึ่งเป็นส่วนที่ดี

ตัวอย่างสมุนไพรที่มีโภชนาการสูง

สมุนไพรตามท้องตลาด

1.ถั่วเขียว

ถั่วเขียว
โปรตีนสูง: ถั่วเขียวเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติหรือผู้ที่ต้องการเพิ่มโปรตีนในอาหาร

ถั่วเขียวต้มน้ำตาล หรือนำมาทำอาหารเช่นเนื้อสัตว์เทียมพวกโปรตีนเกษตร ถั่วเขียวให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันต่ำ มีแร่ธาตุ และวิตามินหลากหลายชนิด เช่น วิตามินเค, วิตามินซี, วิตามินเอ, วิตามินบีรวม  โฟเลต และ เหล็ก ในถั่วเขียวยังมีใยอาหารสูงซึ่งเป็นส่วนที่ดีเพราะทำให้อิ่มเร็วและดูดซึมไขมันและน้ำตาลได้  ถั่วเขียวมีน้ำตาลต่ำจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ในถั่วเขียวมีโปรตีนที่ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์แต่ไขมันน้อยมากและไม่มีโคเลสเตอรอลซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดปัญหาของโรคอ้วนลงพุง หัวใจและหลอดเลือด ในถั่วเขียวอาจจะไม่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นทุกชนิด แต่การรับประทานถั่วเขียวรวมกับธัญพืชตัวอื่นๆ เช่นข้าว  เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน หรือถั่วประเภทอื่นๆ

2.ฟักทอง

ฟักทอง
วิตามินและแร่ธาตุสูง: ฟักทองมีวิตามิน A, วิตามิน C, วิตามิน E, วิตามิน B6, โฟเลต และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โพแทสเซียมและแมกนีเซียม

นั้นเป็นพืชที่ให้พลังงานต่ำ อาจขัดกับความคิดของหลายๆคน แต่จากการวิจัยเทียบกับพืชชนิดอื่นถือว่าต่ให้พลังงานต่ำ มีไขมันน้อย จึงเหมาะแก่คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่จะต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลและครีมที่เติมเข้าไปด้วย นอกจากนี้ฟักทองยังมีกากใยสูงสามรถช่วยระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี

3.เม็ดมะม่วง

เม็ดมะม่วง
ไขมันดี: มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

เมล็ดพืชแหล่งโปรตีนและไขมันดีต่อสุขภาพที่หลายคนเชื่อว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังบางชนิดได้ เช่น โรคอ้วนลงพุง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น โดยส่วนที่นำมาบริโภคเป็นเนื้อในสุดของเมล็ด คนทั่วไปนิยมรับประทานเป็นของกินเล่นหรือใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารและขนมหวานต่างๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น วิตามินเค วิตามินอี วิตามินบี 6 ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ตลอดจนสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง จึงเชื่อว่าเมล็ดพืชชนิดนี้อาจมีสรรพคุณรักษาโรคได้ โดยส่วนอื่น ๆ ของต้นมะม่วงหิมพานต์ก็นำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ด้วย

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *