ชื่อดอกแค

• ชื่อไทย: ดอกแคบ้าน
• ชื่ออังกฤษ: Sesbania Grandiflora
• ชื่อวิทยาศาสตร์: Sesbania grandiflora (L.) Pers.

ดอกแคบ้าน คืออะไร

• เป็นพืชตระกูลถั่วที่กินเป็นดอก และใบอ่อน ในตำราทางการแพทย์โบราณถือเป็นอาหารที่เหมาะกับการรักษาโรคกระเพาะ หรือมีไข้ซึ่งมักเกิดในช่วงต้นฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ดอกเริ่มปรากฏเป็นจำนวนมาก เกสรดอกพริกมีรสขมเล็กน้อย อีกทั้งยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการไข้ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอีกด้วย ยังช่วยปรับสมดุลของร่างกายได้ดี นอกจากนี้ยังมีเบต้าแคโรทีนสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากมีรสฝาดจึงมักไม่นิยมนำมารับประทานเป็นผักสด ใบและยอดของต้นหญ้าแห้งยังใช้ในการปรุงอาหารด้วย แต่จะมีมากในช่วงปลายฤดูฝน ก่อนที่ดอกไม้จะบานในช่วงต้นฤดูหนาว

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

• ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 3-6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นสีน้ำตาลปนเทา ขรุขระ แตกเป็นสะเก็ด ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ใบย่อยรูปรีขอบขนาน กว้าง 1-1.5 ซม.  ยาว 3-4 ซม. ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ  สีเขียว ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ 2-4 ดอก ดอกสีขาวหรือแดง มีกลิ่นหอม ก้านเกสรเพศผู้สีขาว 60 อัน ผล เป็นฝัก ยาว 8-15 ซม. ฝักแก่แตกเป็น 2 ซีก เมล็ดกลมแป้น สีน้ำตาล มีหลายเมล็ด

สรรพคุณ

เปลือก 

• ต้มหรือฝนรับประทาน แก้โรคบิดมีตัว
• แก้มูกเลือด แก้ท้องเดิน ท้องร่วง คุมธาตุ

ดอก และใบ

• รับประทานแก้ไข้เปลี่ยนอากาศ เปลี่ยนฤดู (แก้ไข้หัวลม) 
• ชาวอินเดีย ใช้สูดน้ำที่คั้นได้จากดอกหรือใบแคเข้าจมูกรักษาโรค ริดสีดวงในจมูก และทำให้มีน้ำมูกออกมา แก้ปวดและหนักศีรษะ ลดความร้อน ลดไข้

ใบสด

• รับประทานใบแคทำให้ระบาย
• ใบแค ตำละเอียด พอกแก้ช้ำชอก

การปลูก และการดูแลดอกแค

• แคขาว และแคเเดงเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในดินที่มีการระบายน้ำดีและมีความชื้นพอสมควร
• ชอบแสงแดดเต็มที่และต้องการน้ำปานกลาง
• ปลูกได้ตลอดเวลาสามารถปลูกได้ในครัว

ประโยชน์ของดอกเเค

ด้านอาหาร

• ดอกแคใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารหลายชนิด เช่น แกงส้มดอกแค ยำดอกแค และทอดดอกแค

ด้านยา

• ดอกแคมีสรรพคุณทางยา ใช้แก้ไอ ขับเสมหะ ลดไข้ และบำรุงร่างกาย

ด้านอื่น ๆ

• ฝักอ่อนสามารถนำไปประกอบอาหารได้ และใบอ่อนใช้เป็นอาหารสัตว์